The success history of
Chai Global Inter

CHAIGLOBAL INTER CO.,LTD

จากเวลาในการเดินทางบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2542 กับปุ๋ยนวัตกรรม คือปุ๋ยอัลจินัวจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินและปุ๋ยไบโอฟอสก้าที่ได้จากจุลินทรีย์กลุ่มย่อยสลายฟอสเฟตในดิน ทำให้บริษัทฯได้เข้าสู่อุตสาหกรรมปุ๋ย ยาเคมีเกษตรและการอารักขาพืช

CHITOSAN

ปี 2544 บริษัทฯได้นำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ คือไคโคซานซึ่งเป็น polymer จากกระดองปู มาใช้ในวงการเกษตรกรรมซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้พืชแบ่งเซลล์ กระตุ้นในระดับ DNA ของพืช ทำให้พืชหลั่งสารต่าง ๆ มาปกป้องตัวเอง ทำให้บริษัทฯเริ่มขยายตลาดต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ปุ๋ยถอนกล้าง่าย

ปี 2553 เป็นปีแห่งนวัตกรรม ด้วยตัวของบริษัทฯเอง จากผลิตภัณฑ์คุณภาพซึ่งเป็นอะมิโนโพลิเมอร์ที่สกัดได้จากพืช โดยมีคุณสมบัติเด่นคืออะมิโนโพลิเมอร์จะช่วยทำให้ปุ๋ยสลายตัวช้า (Slow Release) สามารถขยายตัวได้ 200 เท่า เมื่อเจอน้ำทำให้สามารถขยายช่องว่างระหว่างเม็ดดิน ดินหลวม นอกจากนี้ยังกระตุ้นการแตกราก ทำให้พืชแข็งแรงทนทานต่อโรคและแมลง บริษัทฯได้จับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มาวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับ ถอนกล้าง่ายชื่อ “สตองเกอร์” เป็นตลาดใหม่ที่ทำให้บริษัทฯแจ้งเกิดในการเป็นเจ้าตลาดผลิตภัณฑ์ถอนกล้าง่ายภายใต้ตราสินค้า สตองเกอร์

น้ำส้มควันไม้

ปี 2564 โอกาสเปิดอีกครั้งในการสร้างนวัตกรรมเพื่ออารักขาพืชและอารักขาสัตว์ บริษัทฯได้ซื้อเทคโนโลยีในการผลิตน้ำส้มควันไม้คุณภาพสูง ด้วยการเผาแบบแยกส่วนและมีการกลั่นลำดับชั้นเพื่อแยกทาร์ ออกจากน้ำส้มควันไม้ โดยใช้ไม้ยูคาลิปตัสในการเผา จัดเก็บน้ำส้มควันไม้ ที่อุณหภูมิ 300 - 500 องศาเซลเซียส

LAMPY-SKIN

เมื่อปี 2563 - 2564 ได้เกิดโรคระบาดในวัวอย่างรุนแรง คือโรคลัมปี-สกิน ที่เกิดจากไวรัสแพร่ระบาดจากแมลงปากดูดที่เป็นพาหะนำโรค โดยอาการของโรคจะเกิดแผลพุพองเป็นตุ่มมีหัวลึก เหมือนฝี วัวจะกินได้น้อยและซึม ขาอ่อน ซึ่งอาจถึงแก่ชีวิต บริษัทฯได้ผู้บริหารที่มีความเชีายวชาญด้านการตลาด Online เข้ามาจัดการช่องทางการจัดจำหน่าย โดยใช้ Page Facebook เป็นหลักในการทำการตลาดโดยนำน้ำส้มควันไม้และไคโตซานสัตว์ ซึ่งจะกระตุ้นให้วัวสร้างเม็ดเลือดขาวขึ้นมากำจัดไวรัสและใช้น้ำส้มควันไม้ทาที่ผิวหนังรักษาโรคตุ่มหนอง

กลูโฟซิเนตเสริมฤทธิ์ด้วยเพชรดำโกลด์

ปี 2565 โอกาสทองของเรา ชัยโกลบอลอินเตอร์ จากนโยบายช่องทางรัฐบาลที่ยกเลิกสินค้านำเข้าสารกำจัดวัชพืชกลุ่มพาราควอตและให้นำสารกลูโฟซิเนตเข้ามาแทนโดยให้มีการจำกัดการใช้ กลูโฟซิเนตและไกลโฟเซต ทำให้ราคาของกลูโฟซิเนตและไกลโฟเซตสูงขึ้นมาก บริษัทฯได้พัฒนาน้ำส้มควันไม้และน้ำหมักจุลินทรีย์เพื่อนำมาใช้ในการกำจัดวัชพืช ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการตอบสนองต่อตลาดอย่างมาก จากช่องทางการตลาดออนไลน์ทำให้ยอดขายของบริษัทฯทะลุ 100 ล้านในปี 2565 ปัจจุบันบริษัทฯได้พัฒนาสินค้าขึ้นมาอีกมากมายภายใต้สินค้า สตองเกอร์ สตองโกลด์ และ DNA โดยยึดหลักการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตามกลุ่มเป้าหมายภายใต้ แบรนด์ DNA คุณภาพดี ราคายุติธรรม นิสัยดี รับผิดชอบ